ประกันสังคมย้ำ
นายจ้างจ่ายเงินสมทบตรงเวลา ผู้ประกันตนได้รับสิทธิรวดเร็ว
ระบบประกันสังคม ช่วยสร้างหลักประกันและให้ความคุ้มครองแก่ลูกจ้างผู้ประกันตนให้ได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ
ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในกรณีต่างๆ นายจ้างมีหน้าที่ในการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมตามกฎหมาย ทั้งในส่วนที่หักจากค่าจ้างของลูกจ้างและส่วนที่นายจ้างสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม เงินสมทบ คือเงินที่นายจ้าง
ลูกจ้างจะต้องนำส่งเข้ากองทุนประกันสังคมทุกเดือน
โดยคำนวณจากค่าจ้างที่ลูกจ้างได้รับ จากฐานค่าจ้างรายเดือนต่ำสุดเดือนละ 1,650 บาท
และสูงสุดเดือนละ 15,000 บาท โดยคูณกับอัตราเงินสมทบที่ต้องนำส่ง
หากนำส่งเงินสมทบไม่ทันภายในกำหนด หรือส่งไม่ครบจำนวน นายจ้างจะต้องจ่ายเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 2 ต่อเดือน
ของจำนวนเงินที่ไม่ได้ส่ง หรือจำนวนเงินที่ขาดอยู่
สำนักงานประกันสังคมได้เพิ่มช่องทางการจ่ายเงินสมทบเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นายจ้าง ตามกฎหมายประกันสังคม นายจ้างที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป
ต้องขึ้นทะเบียนนายจ้างพร้อมกับขึ้นทะเบียนลูกจ้าง เป็นผู้ประกันตน ภายใน 30 วัน และเมื่อมีการรับลูกจ้างใหม่เพิ่มขึ้นต้องแจ้งขึ้นทะเบียนลูกจ้างใหม่ภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่รับลูกจ้างเข้าทำงาน เช่นกัน
นายจ้างจะต้องหักเงินสมทบในส่วนของลูกจ้างทุกครั้งที่มีการจ่ายค่าจ้างและนำส่งเงินสมทบส่วนของนายจ้างเป็นจำนวนเท่ากับลูกจ้างทั้งหมดถูกหักรวมกัน
พร้อมจัดทำเอกสารตามแบบ สปส. 1-10 (ส่วนที่ 1) และ
สปส. 1-10 (ส่วนที่ 2)โดยกรอกรายละเอียดให้ครบถ้วนถูกต้อง หรือนำส่งเงินสมทบด้วยสื่อข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
ส่งทางอินเทอร์เน็ตผ่านเว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th โดยนำส่งสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา
หรือทางไปรษณีย์ เป็นเงินสดหรือเช็ค ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป หรือชำระเงินผ่านธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือสำนักงานประกันสังคมทุกแห่งที่สถานประกอบการตั้งอยู่
หรือชำระเงินสมทบด้วยระบบ e-payment ของธนาคารกรุงไทย
จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารซิตี้แบงค์ จำกัด (มหาชน) ธนาคาร ซูมิโตโมมิตซุย
คอร์ปอเรชั่น จำกัด และธนาคารมิซูโฮ คอร์ปอเรต จำกัด
นายจ้างต้องจ่ายเงินสมทบภายในระยะเวลาที่กำหนด การที่นายจ้างหลงลืมหรือมีเจตนาจะหลีกเลี่ยงฝ่าฝืนหน้าที่จะมีความผิดตามกฎหมายกำหนด เช่น กรณีนายจ้างกรอกแบบแสดงการส่งเงินสมทบ
(สปส.1-10) ไม่ถูกต้องครบถ้วน
พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งให้นายจ้างกรอกแบบรายการดังกล่าวให้ถูกต้องครบถ้วน
หากนายจ้างไม่ปฏิบัติตามมีความผิดฐานขัดคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ดังนั้นแนะนำให้นายจ้างชำระเงินสมทบให้ถูกต้อง ครบถ้วน
ตรงกำหนดระยะเวลา จะช่วยให้ลูกจ้างผู้ประกันตนได้รับสิทธิประโยชน์ตามสิทธิ
และไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม หากมีข้อสงสัย
สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา
หรือโทรสายด่วน 1506 ตลอด 24 ชั่วโมง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sso.go.th |