โยอัคคิม เลิฟ กุนซือทีมชาติเยอรมันยังคงยึดผู้เล่นจากเกมไล่ถลุงบราซิล 7-1 ลงสนามทั้งหมด มานูเอล นอยเออร์ เฝ้าเสา แผงหลัง 4 คน ประกอบด้วย ฟิลิปป์ ลาห์ม, มัตส์ ฮุมเมลส์, เยโรม บัวเต็ง และ เบเนดิค โฮเวเดส ส่วนกองกลาง 5 คน นำทัพโดย คริสตอป คราเมอร์ (ซามี เคดิรา เจ็บตอนวอร์ม), บาสเตียน ชไวสไตน์เกอร์, โทนี โครส, โธมัส มุลเลอร์ และ เมซุส โอซิล โดยวาง มิโรสลาฟ โคลเซ เป็นกองหน้าตัวเป้า

ด้าน อเลฮานโดร ซาเบยา นายใหญ่ทีมฟ้าขาวก็ใช้ผู้เล่นชุดเดิมลงสนามทั้งหมดเช่นกัน เซร์คิโอ โรเมโร ลงเฝ้าเสา แผงแบ็คโฟร์ 4 คน ประกอบด้วย ปาโบล ซาบาเลต้า, มาร์ติน เดมิเคลิส, เอเซเกล การาย และ มาร์กอส โรโฮ ด้าน ฮาเวียร์ มาสเคราโน, เอ็นโซ เปเรซ และ ลูคัส บิเกลีย ลงคุมเกมตรงกลางสนาม ขณะที่สามประสานในแนวรุกเป็นหน้าที่ของ ลิโอเนล เมสซี, เอเซเกล ลาเวซซี และ กอนซาโล อิกวาอิน

ออกสตาร์ทเกมได้เพียง 4 นาที อาร์เจนตินาได้ทักทายอย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ กอนซาโล อิกวาอิน หลุดเข้าไปซัดด้วยขวาในเขตโทษแต่บอลเฉี่ยวเสาสองออกไปนิดเดียว

นาทีที่ 20 ทีมฟ้าขาวพลาดโอกาสทองที่จะพังประตูขึ้นนำ เมื่อ โทนี โครส โหม่งบอลคืนหลังพลาดอิกวาอินได้หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงเหน่งๆแต่กลับยิงออกไป อย่างไม่น่าเชื่อ

นาทีที่ 30 กองเชียร์ทีมอาร์เจนตินาได้เฮเก้อ เมื่ออิกวาอินเจ้าเก่าสามารถส่งบอลเข้าไปกองในก้นตาข่ายได้แล้ว แต่ทว่าไลน์แมนยกธงว่าเป็นลูกล้ำหน้า

จากนั้นเยอรมันกลับมาโหมบุกบ้าง และนาทีที่ 37 โธมัส มุลเลอร์ พาบอลขึ้นทางกาบซ้ายก่อนไหลให้ อังเดร ชูร์เล ตัวสำรองแปด้วยขวาเน้นๆในเขตโทษ แต่โรเมโรยิงบินปัดไว้ได้

นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ทีมอินทรีเหล็กน่าจะได้ประตูขึ้นนำแบบสุดๆ จากจังหวะที่โครสโยนลูกเตะมุมให้โฮเวเดสโขกเน้นๆพุ่งชนเสาอย่างจัง ก่อนที่มุลเลอร์จะตามซ้ำแต่ไลน์แมนยกธงเป็นลูกล้ำหน้าในจังหวะนี้ จบ 45 นาทีแรก เสมอกันอยู่ 0-0

เข้าสู่ครึ่งหลังได้เพียง 2 นาที ทีมฟ้าขาวหวิดขึ้นนำอีกครั้ง เมื่อบิเกลียจ่ายทะลุช่องให้เมสซีหลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษก่อนซัดด้วยซ้ายบอลหลุดเสาสองไปแบบน่าเสียดาย

อินทรีเหล็กยังครองเกมได้เหนือกว่าเหมือนในครึ่งแรก และนาทีที่ 59 พวกเขาก็ได้ลุ้นบ้าง จากจังหวะที่ลาห์มครอสเข้าเขตโทษให้โคลเซ่ขึ้นโขกแต่บอลเบาเกินไปโรเมโรรับสบาย

นาทีที่ 82 เยอรมันทิ้งโอกาสทองไปอีกครั้ง จากจังหวะที่โอซิลไหลเข้ากลางให้โครสวิ่งเข้ามาแปเน้นๆตรงหัวกะโหลก แต่ว่าวางเท้ายิงไม่ดีบอลหลุดกรอบออกไป

เวลาที่เหลือทั้งสองทีมพังประตูไม่ได้ จบ 90 นาที เยอรมัน เสมอ อาร์เจนตินา 0-0 ต้องตัดสินแชมป์ในช่วงต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที

นาทีที่ 97 ทีมฟ้าขาวพลาดโอกาสทองไปอีกครั้ง เมื่อปาลาซิโอ ตัวสำรองได้พักอกลงในเขตโทษเหน่งๆ แต่เจ้าตัวดันยกบอลข้ามหัวนอยเออร์หลุดกรอบไปอย่างน่าผิดหวัง

แต่แล้วนาทีที่ 113 เยอรมันก็มาพังประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ชูร์เลกระชากขึ้นทางกาบซ้ายก่อนเปิดเข้าเขตโทษให้เกิทเซพักอกก่อนยิงหนีมือโรเมโรเข้าไป

เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกมเยอรมันเฉือนอาร์เจนตินาช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-0 ซิวแชมป์โลกสมัยที่สี่สำเร็จ พร้อมทั้งสร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมจากยุโรปชาติแรกที่ซิวแชมป์โลกบนแผ่นดินอเมริกาใต้ด้วย