พ.ต.อ.ปัญญา คารวนันท์ ผกก.สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดขึ้นบนถนนสาย ปัตตานี-นราธิวาส บริเวณคอสะพานลาฆอ หมู่1 ต.มะนังดาลำ จึงรีบนำกำลัง พร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดไปยังที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ได้ปิดเส้นทางดังกล่าว พร้อมเข้าตรวจสอบ พบหลุมระเบิดริมถนนขนาดใหญ่และชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า พ่วงข้าง ที่ถูกแรงระเบิด จนเหลือแต่ซาก สะเก็ดระเบิดกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่ ได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน

โดยผู้ได้รับบาดเจ็บ7รายถูกนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี ทราบชื่อคือ ส.อ.ผดุงเกียรติ ครุฑศรัทธา หัวหน้าชุดอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) นายมาน ดอเลาะ นายอาดิลัน แรเฮง ทั้ง 2 เป็น อส.อำเภอ โดยทั้ง 3คนถูกสะเก็ดระเบิดที่ลำตัวอาการสาหัสแพทย์ต้องรีบส่งตัวไป รพ.ปัตตานี อีกทั้ง มีนายอดุลย์ หมัดเส็น ปลัดอาวุโสอำเภอสายบุรี นายนันทรัตน์ บัวแย้ม ปลัดป้องกันสายบุรี นายอับดุลเลาะ ยะลาและนายฟารีดล เบญจลักษณ์ อส.สายบุรี ทั้ง 4รายถูกแรงอัดระเบิด ทำให้มีรอยช้ำและแน่นหน้าอก ล่าสุด อาการปลอดภัยแล้ว

             จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุทั้ง7นายกำลังเดินทางด้วยรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า4 ประตูรุ่นวีโก้ แบบหุ้มเกราะทะเบียน กค1568 ยะลา กลับมาจากร่วมกิจกรรมละศีลอด ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ ม.5 ต.ทุ่งคล้า อ.สายบุรี ขณะเดินทางเพื่อกลับไปยังอำเภอ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุคนร้ายได้กดชนวนระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ15กิโลกรัมประกอบไว้ในถังแก๊สปิคนิคซุกไว้ในรถจักรยานยนต์พ่วงข้างจอดทิ้งไว้ริมถนนจนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นสะเก็ดและแรงระเบิดถูกรถยนต์อย่างแรง จนเป็นรูพรุน แต่โชคดีที่เป็นรถหุ้มเกราะ พลขับจึงรีบเร่งเครื่องหนีออกจากที่เกิดเหตุ พร้อมรีบส่งผู้ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาล

สำหรับแนวทางการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า คนร้ายมีการวางแผนและเตรียมการเป็นอย่างดี ใช้วิธีล็อคเป้าหมาย โดยคนร้ายมาวางรถจยย.พ่วงข้างบอมบ์ก่อนที่ชุดปลัดอำเภอ จะทางมาถึงเพียงไม่นานจนทำให้เป้าหมายชัดเจน

ต่อมา เวลา08.00น.วันที่16กรกฎาคม ตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครอง สนธิกำลังเข้าตรวจค้น ที่บ้านเป้าหมาย3จุด ที่หมู่บ้าน ม.2 บ้านกูแว ต.กะดูนง อ.สายบุรีซึ่งเป็นบ้านของนายกามีซัม และนายรอวี จากนั้นไปตรวจค้นที่บ้านของนายมะนาเซ กาพา ที่ ม.5 บ้านกาหงส์ ต.มะนังดาลำ อ.สายบุรี เป็นลุงของนายอาฟันดี กาพา เป็นมือประกอบระเบิด ที่เป็นตัวสำคัญ คาดว่า เป็นผู้มีส่วนร่วมกับการลอบวางระเบิดครั้งนี้เนื่องจากเพียงสัปดาห์ที่ผ่านมานายอาฟันดีและพวก มีการเคลื่อนไหวในบริเวณดังกล่าวนอกจากนั้น มีนายอัสมาน เจะปา เป็นมือประกอบระเบิดเช่นกัน เบื้องต้ ตำรวจเชื่อว่าการก่อเหตุครั้งนี้ น่าจะเป็นกลุ่มนายอาฟันดี กาพาและนายอัสมาน เจะปา

วันเดียวกัน หน่วยข่าวความมั่นคง ได้แจ้งเตือนให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย มีความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่โดยเฉพาะการลาดตระเวนถนนสาย42 ปัตตานี-นราธิวาสเนื่องจากคนร้ายได้ลอบวางระเบิด บนถนนเส้นทางสาย42 จำนวนหลายจุด ตั้งแต่เขตอำเภอสายบุรี จ.ปัตตานี- อ.บาเจาะ จ.นราธิวาสดังนั้นให้ทุกฝ่ายระมัดระวัง

ด้าน พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษก กอ.รมน.เปิดเผยผลการประชุมติดตามสถานการณ์ประจำวัน ศปก.ทบ.โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.)รองผอ.รมน.เป็นประธาน ประชุมผ่านระบบประชุมทางไกลผ่านจอภาพกับพล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่4 ผอ.รมน.ภาค4โดยพล.ท.วลิตได้บรรยายสรุปสถานการณ์ถึงการขับเคลื่อนที่สำคัญคือการขับเคลื่อนชุดคุ้มครองตำบล การรักษาความปลอดภัยเขต7 เมืองเศรษฐกิจ11อำเภอที่ต้องควบคุมสถานการณ์และ20ชุมชนเขตเทศบาลที่ต้องเฝ้าระวัง

“พล.อ.ประยุทธ์ ได้สั่งการให้หน่วยควบคุมสถานการณ์ ช่วง10วันสุดท้ายของเทศกาลรอมฎอนปฎิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวดและระมัดระวัง พร้อมแสดงความห่วงใยถึงความสูญเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติงานในพื้นที่3จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยให้คำแนะนำการปฏิบัติทางยุทธวิธีรวมถึงการระมัดระวังตนเองและคณะ ในการเดินทางร่วมกิจกรรมของชุมชน สำหรับกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุข จชต.ในระดับนโยบายของไทยพร้อมเดินหน้าตามกระบวนการ ในระดับแปลงนโยบายไปสู่การปฏิบัติ ขณะนี้ สมช.อยู่ระหว่างประสานกับประเทศมาเลเซีย ในการจัดรูปแบบ ลักษณะการพูดคุยและคณะพูดคุยฯ ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ทราบดีว่า เจ้าหน้าที่ทุกคนตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ ขอให้เร่งสร้างความเข้มแข็งให้กับกำลังประจำถิ่นที่ต้องอยู่ประจำในพื้นที่ จชต.สำหรับกำลังเจ้าหน้าที่ต่างพื้นที่นั้น จะให้คงอยู่ช่วยปฏิบัติงานในพื้นที่จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ”