จากกรณี ด.ต.จำเนียร ขันแดง ด.ต.รัศมี เทพทา และ ร.ต.ต.สุพจน์โทเกษ ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางชันได้ เข้าสกัดรถเก๋งยี่ห้อซูซูกิ สวิฟท์สีเทา ทะเบียน 1 กฆ 1993 กรุงเทพฯ ซึ่งมี น.ส.อภีษฎา หรือโบว์ สัจพันโรจน์ อายุ 21 ปี นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชั้นปีที่ 4 คณะนิติศาสตร์ ซึ่งจะไปพบหาเพื่อนที่มหาวิทยาลัย โดยขับอยู่ภายในซอยรามคำแหง 118 แยก 44-5 โดยตำรวจเข้าใจว่าเป็นรถของผู้ค้ายาเสพติด เมื่อวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา จนทำให้รถยนต์ของน้องโบว์ได้รับความเสียหาย และพล.ต.อ.พงศพัศ พงศเจริญ รอง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ต้องจัดหารถคันใหม่ให้น้องโบว์นั้น ล่าสุดล่าสุด 16ส.ค. พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.) หัวหน้าคณะสืบสวนสอบสวน เหตุการณ์ดังกล่าว เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดสรุปว่าผู้ก่อเหตุมีแค่ 3 คน ไม่ใช่ 4 คน อย่างที่เป็นข่าว เบื้องต้นจะมีการลงโทษตาม พ.ร.บ.ตำรวจ เป็นโทษกักขัง โดยในส่วนนี้จะเสนอ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วย ผบ.ตร. รรท.ผบช.น. พิจารณาต่อไป เพราะถือว่ามีความผิดทางวินัย โดยในส่วนนี้ บก.น.4 จะทำหนังสือมาอีกครั้งว่าจะให้ทั้ง 3 คน ไปกักขังที่ สน.ใด และเริ่มวันใด นอกจากนี้จะพิจารณาถึงผู้ที่เกี่ยวข้องด้วยว่าบกพร่องหรือไม่ ส่วนทางคดีอาญาผู้เสียหายยังไม่ได้แจ้งความไว้ อาจเพราะตำรวจได้เข้าไปขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น และไม่มีคนเจ็บ มีแต่รถที่เสียหาย ซึ่งระหว่างที่ขับเพื่อหลบหนีการกระทำของตำรวจ ก็มีการเฉี่ยวชนรถคันอื่นได้รับความเสียหาย ในส่วนนี้ทางตำรวจก็ต้องรับผิดชอบด้วย เพราะถือว่าเป็นต้นเหตุในการเกิดเรื่องทั้งหมด ซึ่งตำรวจทั้ง 3 นาย ก็รับอยู่แล้วว่าก่อเหตุไปด้วยความผิดพลาด ไม่ละเอียดรอบคอบตามแนวทางการสืบสวนจับกุม ซึ่งการลงโทษทางวินัยแบบนี้ก็ถือว่าเป็นโทษสถานหนักของตำรวจอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามในเรื่องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นได้มีการตรวจสอบไปแล้วว่ามีผู้ใดได้รับผลกระทบบ้าง ซึ่งต้องคุยกับทางเจ้าหน้าที่ประกันรถและเจรจากับผู้เสียหายอีกครั้ง |